The memory • 23 [NC]
ผมค่อยๆวางคนตัวเล็กลงบนเตียงเบาๆก่อนจะตามไปขึ้นคร่อมแล้วยันแขนข้างที่กันเจ็บออกไปให้ห่างจากส่วนหัว แต่ปากยังคงบดขยี้จูบไม่ปล่อยปาก
‘ฮาก.. แฮ่ก’ เสียงหายใจหอบถูกส่งออกมาจากริมฝีปากสวยเป็นกระจับที่ผมเพิ่งบดขยี้ลงไปเมื่อกี้
เสียงอย่างนี้แม่ง.. น่าจับฟัดซะให้เข็ด
“จะอ่อยกันด้วยเสียงหอบเหรอ?”
‘อ..อะไรของป่าปี๊ อ๊า ~’ พูดจบประโยคไปได้ไม่ถึงวิ คนคุมเกมด้านบนก็โน้มหน้าลงมาคลอเคลียกับต้นคอหอมกรุ่น ผมดูดเนื้อสร้างรอยมากส์ไว้บริเวณไหปลาร้า ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาบดขยี้จูบอีกครั้ง
เมื่ออารมณ์มันพุ่ง มือปลาหมึกก็เริ่มทำงาน ผมจัดการล่วงเข้าไปในสาบเสื้อของคนตัวเล็กแล้วลูบไล้ไปทั่วหน้าท้องแบนราบ ก่อนที่คนตัวเล็กจะเป็นฝ่ายถอดเสื้อของตัวเองออก
“เด็กขี้อ่อย”
‘ทำให้เสร็จสิครับป่าปี๊’ ว่าจบก็ขบเม้มใบหูผมที่กำลังขึ้นสีเบาๆแล้วเลียด้านนอกช้าๆ นั่นยิ่งทำให้ผมเริ่มอยู่ไม่เป็รสุขเรื่อยๆ ผมมองลึกเข้าไปในตาอันเปล่งประกายนั่นก่อนจะจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง โดยปลดแค่กระดุมเสื้อออกทั้งหมด แล้วเปลี่ยนไปดึงกางเกงสามส่วนของคนใต้ร่างลง เผยให้เห็นชั้นในตัวเดียวที่มีสิ่งของบางอย่างนูนออกมา
“อยากก็ไม่บอกตั้งแต่แรก เล่นตัวจังนะแม่คุณ” ว่าจบก็ไล่ขบเม้มเรือนร่างขาวนุ่มที่ถูกปกครองไปด้วยกลิ่นหอมยั่วชวนหลง ผมไล่จูบสร้างรอยรักตั้งแต่กลางหน้าอก ลงมาหน้าท้อง แล้วไล่ลงไปที่ขาอ่อนด้านใน
เสียงครางพึมพัมอย่างเสพสมของคนใต้ร่างยังคงทวีขึ้น เมื่อจุดที่อ่อนไหวโดนครอบคุมอีกครั้ง
‘อ๊า.. ถ..ถอดเถอะป่าปี๊ กะ..กัน อ๊าา’ เสียงหวานร้องครางอย่างทรมาน แน่น่ะสิ ผมยังไม่ได้ถอดปราการชิ้นสุดท้ายของมันออก :) ได้ยินดังนั้นก็ลงมือถอดปราการชิ้นสุดท้ายของคนตัวเล็กออกทันที แล้วค่อยๆใช้มือเรียวข้างนึงรูดขึ้นลงแกนกลางช้าๆ
‘ฮะ..อึก.. ปะ..ป่าปี๊ ~ อ๊า’ ผมขยับเขยื้อนการรูดขึ้นลงให้เร็วขึ้นจนคนตัวเล็กหน้าสั่นระริกด้วยความเสียวซ่าน ก่อนจะเกือบเสร็จสมความสุขทั้งมวล ผมหยุดการกระทำลง ทำให้คนตัวเล็กแสดงสีหน้าไม่พอใจ เนื่องด้วยอารมณ์ที่ยังคงค้างอยู่
‘ป่าปี๊ อย่าแก.. อ๊า!!’ไม่ปล่อยให้พูดจบประโยค ผมทำการครอบครองแกนกลางของคนใต้ร่างด้วยปากอุ่นนุ่มก่อนที่น้ำลำธารขาวจะไหลรินกระฉูด ผมจัดการกลืนน้ำลำธารขาวลงไปจนหมดก่อนจะก้มลงจูบปากร่างเล็กอีกครั้ง แล้วค่อยๆเล้าโลมไปเรื่อยๆ แต่หารู้ไม่ว่า การกระทำเช่นนี้ก็เพื่อจะหลอกล่อร่างเล็กให้สนใจกับจูบเท่านั้น นิ้วเรียวร้ายสอดแทรกเข้าไปทางช่องรักที่ละนิ้ว นั่นทำให้คนใต้ร่างสะดุ้งไม่น้อย
‘ฮะ..อึก จะ..เจ็บ! ป่าปี๊! กัน..จะ.. อ๊า เจ็บ’ตลอดการคร่ำครวญของคนใต้ร่าง ผมทำการชักเข้าออกนิ้วทั้งสามเพื่อปรับให้ช่องรักบีบรัดและปรับตัวกับความรู้สึกให้ชิน แต่ระหว่างนั้นก็ทำการคลอเคลียกับต้นคอหอมฟุ้งไปด้วยเพื่อเบี่ยงเบน
รู้สึกทำอย่างนี้แล้วก็จับแขนไปด้วยจะไม่ถนัดเลยอะ ทำไงดีวะ.. ผมว่าพลางคิดในใจก่อนจะเหลือบไปเห็นเชือกเส้นนึงที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง คิดได้ดังนั้นก็หยิบเชือกมาแล้วใช้ปากกับมืออีกข้างที่ยังว่าง ผูกข้อมือของกันติดไว้กับหัวเตียง
‘ปะ..ป่าปี๊ ~’ เสียงครางกระเซ่ายังคงเรียกเจ้าของนิ้วเรียวที่ชักเข้าออกช่องรักด้วยจังหวะถี่ๆอยู่ตลอด ก่อนที่เจ้าของนิ้วจะถอดปราการของตัวเองออกทั้งหมดแล้วตามมาขึ้นคร่อมคนตัวเล็กเช่นเคย
‘น้องกันหันหลังแล้วจับหัวเตียงไว้ได้ไหมคะ? ไหวไหม?’ น้ำเสียงอ่อนโยนกล่าวเป็นเชิงขอร้อง ร่างเล็กเมื่อได้ยินอย่างนั้นหน้าก็ขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารักก่อนจะลุกแล้วนอนคว่ำบนเตียงแล้วยกสะโพกตัวเองขึ้น แขนสองข้างก็จับหัวเตียงไว้อย่างแน่น
“น่ารักมากค่ะ” ผมเอ่ยปากชมคนตัวเล็กก่อนจะจูบแผ่นหลังเนียน แล้วจับเอวคอดเล็กพลางส่งแกนกลางของตัวเองเข้าไปทางช่องรักด้านหลัง
‘อึก..’
“อย่าเกร็งนะคะ” ว่าปลอบใจแล้วจึงขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ โดยพร่ำบอกตลอดการสร้างบทเพลงรักว่าหากไม่ไหวให้บอก เพราะตอนนี้แขนของกันทั้งสองข้างกำลังรับแรงกระแทกของผมอยู่
ผมเริ่มขยับเร็วถี่ยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้คนตัวเล็กร้องเสียงครางหวานออกมาไม่น้อย พอใกล้เสร็จสมผมซึ่งเป็นคนไม่ค่อยอยากให้เรื่องนี้จบง่ายๆจึงพักหยุดไว้ซักครู่ ก่อนจะกระแทกเข้าไป ณ จุดอ่อนไหวของคนตัวเล็กเต็มๆสองที
‘อ๊ะ..อ๊า! อะ.. อ๊ะ.. อ๊า!! ปะ..ป่าปี๊อย่าแกล้ง! อ๊าา’คนตัวเล็กยังคงครางไม่เป็นภาษาตัวผมเองที่ความรู้สึกยังอยู่ที่ปลายเหวก็ขยับเข้าออกถี่ขึ้นไปอีกตามอารมณ์ จนน้ำรักพุ่งกระจายไปทางช่องรักของคนตัวเล็ก
กันปล่อยแขนทั้งสองข้างลงบนเตียงก่อนจะฟุบหน้าลงกับหมอนแล้วหายใจหอบแฮก ส่วนทางผมยังคงแช่แกนกลางไว้อย่างนั้น ก่อนจะเช็ดทำความสะอาดช่องรักที่เปรอะเปื้อน แล้วจูบซับเหงื่อแผ่นหลังขาวเนียนของแฟนเด็กแล้วจึงจับคนใต้ร่างพลิกขึ้นให้เป็นฝ่ายคุมเกม แล้วยกสะโพกของคนตัวเล็กให้ขยับพร้อมกับตนอีกครั้ง..
‘ฮาก.. แฮ่ก’ เสียงหายใจหอบถูกส่งออกมาจากริมฝีปากสวยเป็นกระจับที่ผมเพิ่งบดขยี้ลงไปเมื่อกี้
เสียงอย่างนี้แม่ง.. น่าจับฟัดซะให้เข็ด
“จะอ่อยกันด้วยเสียงหอบเหรอ?”
‘อ..อะไรของป่าปี๊ อ๊า ~’ พูดจบประโยคไปได้ไม่ถึงวิ คนคุมเกมด้านบนก็โน้มหน้าลงมาคลอเคลียกับต้นคอหอมกรุ่น ผมดูดเนื้อสร้างรอยมากส์ไว้บริเวณไหปลาร้า ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาบดขยี้จูบอีกครั้ง
เมื่ออารมณ์มันพุ่ง มือปลาหมึกก็เริ่มทำงาน ผมจัดการล่วงเข้าไปในสาบเสื้อของคนตัวเล็กแล้วลูบไล้ไปทั่วหน้าท้องแบนราบ ก่อนที่คนตัวเล็กจะเป็นฝ่ายถอดเสื้อของตัวเองออก
“เด็กขี้อ่อย”
‘ทำให้เสร็จสิครับป่าปี๊’ ว่าจบก็ขบเม้มใบหูผมที่กำลังขึ้นสีเบาๆแล้วเลียด้านนอกช้าๆ นั่นยิ่งทำให้ผมเริ่มอยู่ไม่เป็รสุขเรื่อยๆ ผมมองลึกเข้าไปในตาอันเปล่งประกายนั่นก่อนจะจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง โดยปลดแค่กระดุมเสื้อออกทั้งหมด แล้วเปลี่ยนไปดึงกางเกงสามส่วนของคนใต้ร่างลง เผยให้เห็นชั้นในตัวเดียวที่มีสิ่งของบางอย่างนูนออกมา
“อยากก็ไม่บอกตั้งแต่แรก เล่นตัวจังนะแม่คุณ” ว่าจบก็ไล่ขบเม้มเรือนร่างขาวนุ่มที่ถูกปกครองไปด้วยกลิ่นหอมยั่วชวนหลง ผมไล่จูบสร้างรอยรักตั้งแต่กลางหน้าอก ลงมาหน้าท้อง แล้วไล่ลงไปที่ขาอ่อนด้านใน
เสียงครางพึมพัมอย่างเสพสมของคนใต้ร่างยังคงทวีขึ้น เมื่อจุดที่อ่อนไหวโดนครอบคุมอีกครั้ง
‘อ๊า.. ถ..ถอดเถอะป่าปี๊ กะ..กัน อ๊าา’ เสียงหวานร้องครางอย่างทรมาน แน่น่ะสิ ผมยังไม่ได้ถอดปราการชิ้นสุดท้ายของมันออก :) ได้ยินดังนั้นก็ลงมือถอดปราการชิ้นสุดท้ายของคนตัวเล็กออกทันที แล้วค่อยๆใช้มือเรียวข้างนึงรูดขึ้นลงแกนกลางช้าๆ
‘ฮะ..อึก.. ปะ..ป่าปี๊ ~ อ๊า’ ผมขยับเขยื้อนการรูดขึ้นลงให้เร็วขึ้นจนคนตัวเล็กหน้าสั่นระริกด้วยความเสียวซ่าน ก่อนจะเกือบเสร็จสมความสุขทั้งมวล ผมหยุดการกระทำลง ทำให้คนตัวเล็กแสดงสีหน้าไม่พอใจ เนื่องด้วยอารมณ์ที่ยังคงค้างอยู่
‘ป่าปี๊ อย่าแก.. อ๊า!!’ไม่ปล่อยให้พูดจบประโยค ผมทำการครอบครองแกนกลางของคนใต้ร่างด้วยปากอุ่นนุ่มก่อนที่น้ำลำธารขาวจะไหลรินกระฉูด ผมจัดการกลืนน้ำลำธารขาวลงไปจนหมดก่อนจะก้มลงจูบปากร่างเล็กอีกครั้ง แล้วค่อยๆเล้าโลมไปเรื่อยๆ แต่หารู้ไม่ว่า การกระทำเช่นนี้ก็เพื่อจะหลอกล่อร่างเล็กให้สนใจกับจูบเท่านั้น นิ้วเรียวร้ายสอดแทรกเข้าไปทางช่องรักที่ละนิ้ว นั่นทำให้คนใต้ร่างสะดุ้งไม่น้อย
‘ฮะ..อึก จะ..เจ็บ! ป่าปี๊! กัน..จะ.. อ๊า เจ็บ’ตลอดการคร่ำครวญของคนใต้ร่าง ผมทำการชักเข้าออกนิ้วทั้งสามเพื่อปรับให้ช่องรักบีบรัดและปรับตัวกับความรู้สึกให้ชิน แต่ระหว่างนั้นก็ทำการคลอเคลียกับต้นคอหอมฟุ้งไปด้วยเพื่อเบี่ยงเบน
รู้สึกทำอย่างนี้แล้วก็จับแขนไปด้วยจะไม่ถนัดเลยอะ ทำไงดีวะ.. ผมว่าพลางคิดในใจก่อนจะเหลือบไปเห็นเชือกเส้นนึงที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง คิดได้ดังนั้นก็หยิบเชือกมาแล้วใช้ปากกับมืออีกข้างที่ยังว่าง ผูกข้อมือของกันติดไว้กับหัวเตียง
‘ปะ..ป่าปี๊ ~’ เสียงครางกระเซ่ายังคงเรียกเจ้าของนิ้วเรียวที่ชักเข้าออกช่องรักด้วยจังหวะถี่ๆอยู่ตลอด ก่อนที่เจ้าของนิ้วจะถอดปราการของตัวเองออกทั้งหมดแล้วตามมาขึ้นคร่อมคนตัวเล็กเช่นเคย
‘น้องกันหันหลังแล้วจับหัวเตียงไว้ได้ไหมคะ? ไหวไหม?’ น้ำเสียงอ่อนโยนกล่าวเป็นเชิงขอร้อง ร่างเล็กเมื่อได้ยินอย่างนั้นหน้าก็ขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารักก่อนจะลุกแล้วนอนคว่ำบนเตียงแล้วยกสะโพกตัวเองขึ้น แขนสองข้างก็จับหัวเตียงไว้อย่างแน่น
“น่ารักมากค่ะ” ผมเอ่ยปากชมคนตัวเล็กก่อนจะจูบแผ่นหลังเนียน แล้วจับเอวคอดเล็กพลางส่งแกนกลางของตัวเองเข้าไปทางช่องรักด้านหลัง
‘อึก..’
“อย่าเกร็งนะคะ” ว่าปลอบใจแล้วจึงขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ โดยพร่ำบอกตลอดการสร้างบทเพลงรักว่าหากไม่ไหวให้บอก เพราะตอนนี้แขนของกันทั้งสองข้างกำลังรับแรงกระแทกของผมอยู่
ผมเริ่มขยับเร็วถี่ยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้คนตัวเล็กร้องเสียงครางหวานออกมาไม่น้อย พอใกล้เสร็จสมผมซึ่งเป็นคนไม่ค่อยอยากให้เรื่องนี้จบง่ายๆจึงพักหยุดไว้ซักครู่ ก่อนจะกระแทกเข้าไป ณ จุดอ่อนไหวของคนตัวเล็กเต็มๆสองที
‘อ๊ะ..อ๊า! อะ.. อ๊ะ.. อ๊า!! ปะ..ป่าปี๊อย่าแกล้ง! อ๊าา’คนตัวเล็กยังคงครางไม่เป็นภาษาตัวผมเองที่ความรู้สึกยังอยู่ที่ปลายเหวก็ขยับเข้าออกถี่ขึ้นไปอีกตามอารมณ์ จนน้ำรักพุ่งกระจายไปทางช่องรักของคนตัวเล็ก
กันปล่อยแขนทั้งสองข้างลงบนเตียงก่อนจะฟุบหน้าลงกับหมอนแล้วหายใจหอบแฮก ส่วนทางผมยังคงแช่แกนกลางไว้อย่างนั้น ก่อนจะเช็ดทำความสะอาดช่องรักที่เปรอะเปื้อน แล้วจูบซับเหงื่อแผ่นหลังขาวเนียนของแฟนเด็กแล้วจึงจับคนใต้ร่างพลิกขึ้นให้เป็นฝ่ายคุมเกม แล้วยกสะโพกของคนตัวเล็กให้ขยับพร้อมกับตนอีกครั้ง..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น